การนำแผงโซล่าเซลล์มาใช้เป็นพลังงานในการผลิตไฟฟ้า โดยรูปแบบที่นิยมกันอยู่ในปัจจุบัน มีทั้ง On Grid และ Off Grid รวมถึงผู้ที่สนใจจะติดตั้งควรเรียนรู้ ทั้งข้อดี และข้อเสียของทั้ง 2 ระบบก่อน เพื่อความคุ้มค่าที่ได้ลงทุนไปและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เราลองมาดูกันว่าระบบโซลาร์แบบ On Grid กับ Off Grid ต่างกันอย่างไร
1. On Grid และ Off Grid ใช้ระบบแปลงไฟฟ้า (Inverter) ต่างกัน
- โดยระบบ On Grid จะใช้ Grid Tie Inverter เป็นอุปกรณ์แปลงไฟฟ้ามาใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และยังสามารถเชื่อมต่อเข้ากับระบบสายส่งของการไฟฟ้า ทำให้ลดความยุ่งยากในการต้องแยกระบบควบคุม รวมทั้งช่วยลดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมได้ด้วย
- ส่วนระบบ Off Grid จะใช้ Off Grid Inverter แปลงไฟฟ้าจากกระแสตรง (DC) เป็นกระแสสลับ (AC) แต่ไม่สามารถนำมาเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้าได้
2. On Grid ถ้ามีกระแสไฟฟ้าเกินสามารถขายคืนได้ แต่ Off Grid ไม่สามารถทำได้
ระบบ On Grid สามารถเชื่อมต่อกับระบบสายส่งของการไฟฟ้าได้ หากผลิตไฟฟ้าได้เกินกว่าความต้องการใช้งาน กระแสไฟฟ้าที่เหลือยังสามารถขายคืนให้กับการไฟฟ้าได้ เป็นการสร้างรายได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง แต่สำหรับระบบ Off Grid เป็นระบบที่ผลิตไว้ใช้งานเอง หรือหากผลิตได้เกินก็จะนำไปจัดเก็บในระบบแบตเตอรี่แทน ไม่สามารถนำไปขายคืนได้
3. On Grid ไม่สามารถใช้ไฟฟ้าเมื่อไฟดับได้ ส่วน Off Grid มีไฟใช้ตลอดในช่วงกลางวัน
เนื่องจากการออกแบบของระบบ On Grid นั้น มีการทำงานร่วมกันของระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า 2 ระบบ คือ ไฟฟ้าที่ผลิตจากแผงโซล่าเซลล์ และไฟฟ้าที่มาจากสายส่งของการไฟฟ้า แต่หากเกิดกระแสไฟฟ้าดับ ระบบ On Grid ก็จะดับไปด้วย แม้ว่าระบบโซล่าเซลล์จะยังสามารถผลิตไฟฟ้าได้ในช่วงกลางวัน เพราะระบบได้ออกแบบมาเพื่อป้องกันกระแสไฟไหลย้อนกลับ ทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้ปฏิบัติงานซ่อมแซมไฟฟ้าและเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมถึงค่าซ่อมบำรุงรักษาค่อนข้างต่ำ เพราะไม่จำเป็นต้องใช้แบตเตอรี่ ที่จะต้องเปลี่ยนทุก ๆ 2-5 ปีอีกต่อไป ระบบนี้จึงเหมาะกับที่พักอาศัยที่ต้องการประหยัดพลังงานอย่างแท้จริง
ส่วนระบบ Off Grid จะยังสามารถใช้งานไฟฟ้าได้ตลอดในช่วงเวลากลางวัน และมีไฟฟ้าสะสมในแบตเตอรี่
4. Off Grid มีต้นทุนอุปกรณ์ และเงินลงทุนในระบบที่สูงกว่า On Grid
เนื่องด้วยระบบ Off Grid จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์จำนวนมากในการเชื่อมต่อกันเป็นระบบ ทั้งแผงโซล่าเซลล์, Inverter, Solar Charger, แบตเตอรี่ จึงจำเป็นต้องใช้งบประมาณในการลงทุนที่สูงกว่า ทั้งในการออกแบบ ติดตั้งและดูแลระบบผลิตไฟฟ้ามากกว่าระบบ On Grid
จุดเด่นของ ‘Off-grid system’ สามารถใช้ได้ในช่วงเวลากลางคืน หรือในยามฉุกเฉิน เช่น ไฟตก ไฟดับ เพราะเป็นระบบอิสระที่สามารถผลิตพลังงานได้เอง
โดยมีหลักการคือ นำประจุไฟฟ้าเก็บไว้ในแบตเตอรี่ แล้วนำไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มาใช้งาน ‘Off-grid system’ จึงเป็นที่นิยมใช้ในสถานที่ที่ไฟฟ้าเข้าไม่ถึง หรือใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
แต่ข้อเสียคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าในประเทศไทยส่วนใหญ่ใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ดังนั้น หากติดตั้งระบบ Off-grid system เพื่อใช้งานร่วมกับเครื่องใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) จึงจำเป็นต้องติดตั้งอินเวอร์เตอร์เพื่อทำการแปลงกระแสไฟฟ้าก่อนจ่ายไฟไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ
5. ระบบ On Grid ต้องจ่ายค่าไฟฟ้ารายเดือน แต่ Off Grid ไม่ต้องจ่าย
ถึงระบบ On Grid จะสามารถผลิตไฟฟ้าจากแผงโซล่าเซลล์มาใช้ได้เอง แต่ยังคงต้องพึ่งพากระแสไฟฟ้าจากระบบสายส่งของการไฟฟ้า ในกรณีที่แสงแดดน้อย หรือในช่วงฤดูฝน จึงทำให้ยังคงมีรายจ่ายค่าไฟในแต่ละเดือนอยู่ ซึ่งจะลดน้อยลง จาการนำไฟฟ้าจากโซล่าเซลล์เข้ามาเสริมในช่วงเวลากลางวัน ส่วนระบบ Off Grid เป็นระบบที่ไม่ได้มีการเชื่อมต่อกับระบบสายส่ง จึงไม่ต้องมีการจ่ายไฟฟ้ารายเดือน
“ ทั้งนี้ถ้าเป็นการต่อแผงโซล่าเซลล์กับปั๊มน้ำ ถ้าปั๊มน้ำเป็นมอเตอร์ AC จำเป็นต้องมี Inverter เพื่อแปลงกระแสไฟ DC จากแผงโซล่าเซลล์ เป็นกระแสไฟ AC เพื่อให้ใช้กับปั๊มน้ำนั้นๆได้ สำหรับการคำนวณแผงและกระแสไฟสำหรับปั๊มน้ำ คลิก “
תגובות